วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สวัสดีคะวันนี้เราพาไปพบกับอีกสถานที่ ที่ทุกคนไปฝรั่งเศสแล้วไม่พลาดที่จะไปเที่ยววันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสถานที่นี้ให้มากขึ้นไปชมกันเลย

ประตูชัยฝรั่งเศส(Arc de Triomphe หรือเรียกเต็มๆว่า Arc de triomphe de l’Etoile อ่านว่า อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล) เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปีสร้างขึ้นปีพ.ศ. 2349 หลังจากที่จักรพรรดิ นโปเลียนที่ 1 ได้รับชัยชนะจากยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่าสามสิบปีเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ พ.ศ. 2376-2379
ฌ็อง ชาลแกร็ง ใช้ศิลปะคลาสสิคใหม่ที่ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณโดยการใช้รูปปั้นแกะสลักจากช่างแกะสลักคนสำคัญแห่งยุคเช่น ณอง-ปีแอร์ กอร์โตต์, ฟรองซัวร์ส์ รูด, อองตวน เอเตกซ์,เจมส์ ปราดีเยร์ และฟิลิปป์ โฌเซฟ อองรี ลาแมร์ ในการแกะสลักยุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศส รูปร่างกายกำยำเต็มไปด้วยเครา ใส่ชุดเกราะแสดงถึงความห้าวหาญ น่ายกยงย่องกาลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน รูปแกะสลักลอยตัวที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ การปลุกใจ รวมทั้งสดุดีการเสียสละแก่วีรชนทหารกล้าที่ทำเพื่อประเทศฝรั่งเศส ต่อมาถูกตั้งให้เป็นอนุสรณ์ของทหารฝรั่งเศสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามที่ทำเพื่อประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
ประตูชัยฝรั่งเศสหรือบางคนก็เรียกว่า ประตูชัยนโปเลียน มีความสูง 49.5 เมตร มีความกว้าง 45 เมตรและมีความลึกถึง 22 เมตรถูกจัดอันดับเป็นประตูชัยที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกล(Place Charles de Gaulle)หรือ จัตุรัสแห่งดวงดาว อยู่ทางตะวันตกของ ชองป์-เซลิเซ่ส์ ทางเชื่อมถนนสายสำคัญอย่าง ชองป์ส เอลิเซ่
ประตูชัยฝรั่งเศสจุดเริ่มต้น-สิ้นสุดของถนนถึง 12 เส้นทาง เป็นส่วนหนึ่งของแนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์ เชื่อมต่อถนนตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองกรุงปารีส ด้วยประวัติและความวิจิตรงดงามทางสถาปัตยกรรมทำให้ประตูชัยฝรั่งเศสจัดเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนทั้งกลางวัน-กลางคืน
ภาพบรรยากาศยามคํ่าคืน

ที่มาของประตูชัยแห่งฝรั่งเศส
         ประตูชัยถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะในสงครามของพระองค์ ในปี 1806 ก่อนจะเสร็จสมบูรณ์ในสมัยของพระเจ้าหลุยส์-ฟิลลิป ในปี 1836นอกจากเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนแล้ว เวลาต่อมาประตูชัยแห่งฝรั่งเศส ได้เป็นที่ประดับภาพแกะสลักบันทึกเรื่องราวเมื่อมีการปฎิวัติประเทศฝรั่งเศส , การจารึกรายชื่อสงครามและสมรภูมิที่สำคัญในช่วงปฎิวัติประเทศและช่วงเวลาของจักรวรรดิฝรั่งเศส รายชื่อทหารที่ร่วมรบในสงครามดังกล่าว รวมไปจนถึงศพของทหารนิรนาม(ทหารซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร)จากสงครามโลกครั้งที่ 1   ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสทั้งสิ้น

วีดีโอ





ที่มา:https://www.talontiew.com/arc-de-triomphe/

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปดูว่าในประเทศฝรั่งเศสมีหมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆอะไรไปชมกันเลย

1. Roussillon

เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของสีสันของตัวอาคารต่างๆ ของผู้คน ที่เป็นสีแทบจะโทนเดียวกันทั้งหมด ทำให้เวลาที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนใครหลายๆ คนก็จะต้องแปลกใจกับความวินเทจของชาวเมืองนี้อย่างแน่นอน

2. Amiens

เมืองแห่งแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ที่อยู่ห่างกรุง Paris ไปเพียงแค่ชั่วโมงเดียว เมือง Amiens แห่งนี้เปรียบเสมือนได้กับเมืองย้อนยุคที่แฝงตัวอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีสถานที่ที่น่าสนใจอย่าง Les Hortillonnages หรือสวนลอยน้ำที่นักท่องเที่ยวต้องพายเรือเข้าชมเท่านั้นอีกด้วย

3. Cluny

สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนี้ก็คือ อาราม Cluny ที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับผู้ที่นิยมสถาปัตยกรรมแบบเก่าแล้ว ที่นี่อาจจะเป็นสถานที่ที่คุณจะต้องหลงรักเลยก็ว่าได้ อีกทั้งรอบๆ เมืองยังมีฟาร์มรวมถึงพื้นที่เกษตร ให้เราได้ไปเยี่ยมชม พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อีกต่างหาก

4. Chamonix

เมืองเร้นลับที่แฝงอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับภูเขา Mont Blanc ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้คนที่ชื่นชอบการเล่นสกีรวมถึงการปีนเขา และก็ด้วยทิวทิศน์อันสวยงามตลอดทั้งปี จึงทำให้ที่นี่เปรียบได้กับสวรรค์สำหรับใครหลายคนเลยล่ะ

5. Annecy

Annacy เป็นเพียงแค่เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่อยู่ในจังหวัด Savoie แต่ว่าความสวยงามของที่นี่กลับไปเล็กเหมือนกับขนาดของตัวเมือง เพราะว่าด้วยลำคลองต่างๆ ที่ตัดผ่านเข้าสู่เมือง ทำให้มีการใช้เรือในการสัญจรได้เป็นอย่างดี ซึ่งความงดงามของมันนั้นถึงกับมีคนเรียกว่า ‘เวนิสแห่ง Savoie’ เลยทีเดียว

6. Vouvant

Vouvant เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดของบริเวณป่าในประเทศฝรั่งเศส ที่นี่จึงให้ความรู้สึกเหมือนกับเมืองเร้นลับที่อยู่ในเทพนิยาย อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเราย้อนยุคไปอยู่ในยุคโบราณกาลเลยก็ว่าได้
เพราะว่าที่นี่ยังคงมีกำแพงเมืองเดิมที่เคยกั้นเมืองจากข้าศึกในอดีตบางส่วนเอาไว้ แถมยังมีสะพานแบบดึกดำบรรพ์ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ให้เราได้ยลความงามอีกต่างหาก

7. Bayeux

เมือง Bayeux เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่่องมาจากเป็นเมืองที่ตั้งแสดงของ พรมผนัง Bateux ซึ่งเป็นภาพปักประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงชัยชนะของชาวนอร์มันที่มีต่ออังกฤษ ในอดีต ที่นี่จึงเต็มไปด้วยมนต์ขลังความเก่าแก่มากมาย ที่รอให้ทุกคนไปเยี่ยมเยียนกัน

8. Eze 

หากจะหาเมืองหนึ่งที่ไว้ใช้สำหรับพักผ่อน และหาความสงบสุขล่ะก็ เมือง Eze สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยความไม่วุ่นวาย เงียบสงบ
รวมถึงวิวที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,400 ฟุต ทำให้จากที่นี่เราจะสามารถมองเห็นทะเลเมดิเตอร์เนียนในแบบที่ไกลจนสุดลูกหูลูกตา ซึ่งมันอาจจะเป็นมุมพักผ่อนจิตใจสำหรับคุณก็เป็นได้

9. Porquerolles

เกาะน้อยที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาเยือน เกาะแห่งนี้มีความพิเศษมากกว่าเกาะอื่นตรงที่ความเงียบสงบ เงียบจนถึงขั้นที่ว่าได้ยินเสียงลมหายใจของตนเอง
เพราะเกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ปราศจากรถยนต์แม้แต่คันเดียว จึงมั่นใจได้เลยว่าจะสามารถพักผ่อนได้แบบไร้สิ่งใดๆ มากวนใจให้หงุดหงิดเลย

10. Colmar

ฉายา ‘เวนิสขนาดย่อม’ ของที่นี่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ด้วยแม่น้ำลำคลองขนาดเล็กสายต่างๆ ที่ตัดผ่านไปยังตัวเมืองทำให้มันกลายเป็นภาพที่สวยสะดุดตา
แถมอาคารต่างๆ ในเมืองยังเต็มไปด้วยสีสันต่างๆ ที่หลากหลาย จนมีหลายคนเชื่่อว่าเมืองนี้ได้เป็นต้นแบบของนิทานเรื่อง Beauty And The Beast เลยทีเดียว

สวัสดีค่ะวันนี้เราจะพาไปชมทะเลสาบต่างๆในประเทศฝรั่งเศสไปชมกันเลยจ้าว่าจะมีทะเลสาบอะไรบ้าง

1. ทะเลสาบ Salagou

ทะเลสาบที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากการสร้างเขื่อนกันแม่น้ำ Salagou เมื่อปี 1960 และหลังจากนั้นมักก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลายๆ ที่ที่ให้มาชมความสวยงามของมัน โดยคุณสามารถปั่นจักรยานหรือขับรถเพื่อชมวิวทิวทัศน์ของที่นี่ได้ แต่ถ้าหากว่าคุณมีเวลาล่ะก็การเดินชมวิวช้าๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย


2. ทะเลสาบ Gaube

ทะเลสาบจากเทือกเขาพิเรนีสที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงและมีสีฟ้าของน้ำจากธารน้ำแข็ง ซึ่งจุดประสงค์ของนักเดินทางส่วนมากเมื่อมาถึงที่นี่ก็คือการปีนเขาเพื่อชมความสวยงามของทะเลสาบมุมสูง

3. ทะเลสาบ Capitello

ทะเลสาบที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาหินใน Restonica Valley และนอกจากการชมทัศนียภาพของทะเลสาบแห่งนี้แล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมอย่างเช่นการปีนเขาสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดนั้นก็หนีไม่พ้นช่วงหน้าร้อน

4. ทะเลสาบ Mont Cenis

ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับชายแดนของประเทศอิตาลี สีฟ้าครามของทะเลสาบแห่งนี้คือเอกลักษณ์ของความสวยงามที่นี่ นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่อยู่รอบๆ พื้นที่อีกด้วย และที่สำคัญยังมีพันธุ์ไม้บางชนิดที่สามารถพบได้เฉพาะที่ทะเลสาบแห่งนี้ด้วย

5. ทะเลสาบ Aiguebelette

ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่มาพร้อมกับความสงบแห่งนี้ คือทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ที่นี่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะสองเกาะและบ่อน้ำพุร้อนมากมาย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส

6. ทะเลสาบ Bourget

ทะเลสาบที่ทอดตัวยาวและรายล้อมไปด้วยภูเขาแห่งนี้เกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งเมื่อประมาณ 19,000 ปีก่อน ซึ่งหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือบนภูเขา Dent du Chat และนอกจากนี้ทางฝั่งตะวันออกของทะเลสาบยังมีวิวของเทือกเขาแอลป์ให้ได้ชื่นชมอีก

7. ทะเลสาบ Sainte Croix

ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศฝรั่งเศสแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำ Verdun เมื่อปี 1973 ความสวยงามของที่นี่อยู่ที่ภูเขาและป่าที่อยู่รอบๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ว่ายน้ำเล่นสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน

8. ทะเลสาบเจนีวา

ทะเลสาบที่กินพื้นที่ของประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ จะทำให้คุณได้อึ้งกับความสวยงามของพื้นน้ำสีน้ำเงินเข้มและอาคารบ้านเรือนที่อยู่รอบๆ รวมถึงเทือกเขาแอลป์ที่ล้อมรอบทะเลสาบแห่งนี้ด้วย

9. ทะเลสาบ Serre-Poncon

ทะเลสาบจากทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสแห่งนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของมนุษย์เมื่อปี 1960 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยนักท่องเที่ยวควรหลีกเลี่ยงการมาเยือนทะเลสาบแห่งนี้ในช่วงเดือนกันยายนเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยนั่นเอง

10. ทะเลสาบ Annecy

ทะเลสาบจากจังหวัดซาวัวแห่งนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่จะทำให้วันหยุดของคุณเป็นอีกหนึ่งวันที่แสนพิเศษ ที่นี่คุณสามารถปั่นจักรยานหรือจะเลือกนั่งพายเรือเพื่อชมความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้ได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีร้านคาเฟ่สวยๆ ให้คุณได้นั่งชมวิวเพลินๆ อีกนะ






สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปรู้จักกับแม่นํ้าแซนและที่แม่นํ้าแห่งนี่มีกิจกรรมอะไรบางไปชมกันเลยจ้า

แม่น้ำแซน (ฝรั่งเศสSeineเสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [sɛn]) เป็นแม่น้ำสายหลักทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงปารีสอีกด้วย แม่น้ำแซนเป็นแม่น้ำที่มีความยาว 777 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำที่สำคัญในแอ่งปารีสในภาคเหนือของฝรั่งเศส มีต้นน้ำอยู่ที่คอมมูนซูร์สแซนซึ่งอยู่ห่างจากเมืองดีฌงในที่ราบสูงล็องก์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร ไหลผ่านปารีสและไหลลงสู่ช่องแคบอังกฤษที่เลออาฟวร์ (และอ็องเฟลอร์ในตลิ่งฝั่งซ้าย)[1] แม่น้ำแซนสามารถเดินเรือสมุทรเข้าไปในฝั่งได้ไกลที่สุดถึงเมืองรูอ็องเป็นระยะทาง 120 กิโลเมตรจากทะเล ความยาวของแม่น้ำแซนกว่า 60 เปอร์เซนต์จนถึงแคว้นบูร์กอญ มีการเดินเรือเชิงพาณิชย์ และตลอดเกือบทั้งความยาวของแม่น้ำมีไว้สำหรับการสันทนาการด้านการพายเรือ และยังมีเรือเดินระยะสั้นให้บริการล่องเรือเที่ยวชมตลิ่งของแม่น้ำแซนในปารีส โดยพาชมอนุสรณ์สถานสำคัญ ได้แก่ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีสหอไอเฟลพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และ พิพิธภัณฑ์ออร์แซ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปภาพแม่น้ําแซน

ล่องเรือชมความสวยงามของเมืองปารีส

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปภาพแม่น้ําแซน
บรรยายกาศล่องเรือชมความสวยงามยามคํ่าคืน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปภาพแม่น้ําแซน
วีดีโอ