เที่ยวชมสัญลักษณ์เรือไวกิ้ง Solfar (Sun Voyager Sculpture) และถนนช้อปปิ้ง

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

เที่ยวชมสัญลักษณ์เรือไวกิ้ง SOLFAR (SUN VOYAGER SCULPTURE) และถนนช้อปปิ้งในไอซ์แลนด์

เที่ยว Solfar ไอซ์แลนด์ หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ The Sun Voyager เป็นงานประติมากรรมรูปเรือที่ตั้งอยู่ในกรุง Reykyavik สร้างขึ้นโดยช่างสลักชื่อ Jon Gunnar Arnason โดยคนส่วนมากมักจะเข้าใจผิดว่ามันคือสัญลักษณ์เรือไวกิ้ง แต่จริงๆแล้ว The Sun Voyager มีความหมายโดยนัยเดิมว่า “เรือแห่งความฝัน” และเป็นบทสรรเสริญพระอาทิตย์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เหมาะกับการไปเยี่ยมชมงานศิลปะชิ้นนี้มากที่สุด คือฤดูร้อนในช่วงกลางคืน เนื่องจากจะเป็นช่วงเวลาที่มีปรากฏการณ์ Midnight Sun หรือพระอาทิตย์เที่ยงคืน ทำให้แม้จะเป็นเวลากลางคืนแล้วแต่ก็พระอาทิตย์ก็ยังไม่ตกดิน นักท่องเที่ยงจึงสามารถเดินดูรอบๆ เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปตามธารน้ำจากหอแสดงคอนเสิร์ต Harpa Hall ได้ด้วย

ถนนช้อปปิ้ง อยู่ถัดจากโบส์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา Hallgrimskirkja Church เป็นถนนทอดยาวไม่ไกล และร้านค้าไม่เยอะมากค่ะ เห็นมีร้านขายชุดกันหนาว และของที่ระลึก ไม่มีอะไรมาก

ที่มา:https://www.yingpook.com/solfar-sun-voyager-sculpture/

เที่ยวบ้านฮอฟดิ The Hofdi House

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

 

เที่ยวบ้านฮอฟดิ THE HOFDI HOUSE ไอซ์แลนด์

เช็คอินที่แรก ณ เมืองหลวง Reykjavik ไอซ์แลนด์ กิ้วก้าววว แสงเหนือๆๆๆ Sisters Makeup ครูจอยครูโรสทดลองกินหิมะเป็นครั้งแรก 555

อัพเดทข่าวล่าสุดตอน 1 ทุ่ม เค้าบอกว่ามีเมฆ และหิมะตก ทำให้คืนนี้ไม่น่าจะเห็นแสงเหนือค่ะ แปววว

บ้านไวท์เฮ้าส์เล็กๆ น่ารัก แถมบรรยากาศยังดีอีกด้วยค่ะ มีทัศนียภาพที่สวยงาม ตั้งอยู่ใกล้กับริมน้ำและภูเขา ด้านหน้ามีรูปปั้นของ นักสำรวจเลฟ อีริคสัน ที่ทางสหรัฐให้เป็นของกำนัลในวาระฉลองรัฐสภาอัลธิงกิที่เก่าแก่ที่สุดในโลกค่ะ

เห็นหลังเล็กๆ กระทัดรัดแบบนี้เนี่ย แต่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติที่น่าสนใจของไอซ์แลนด์นะค้า
บ้านเก่าหลังนี้เคยถูกไฟไหม้ ทางไอซ์แลนด์ได้ขอซื้อต่อในปีค.ศ.1958 แล้วมาซ่อมแซมขึ้นใหม่
แต่เดิมเป็นอดีตบ้านท่านประธานาธิบดี ปัจจุบันบ้านหลังนี้เป็นที่ว่าง และไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชมค่ะ
ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่สำหรับการประชุมไอซ์แลนด์ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยงผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่
คือ ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียและประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ในการยุติสงครามเย็น
และเคยเป็นหอส่งกระจายเสียงที่ติดต่อกับโลกภายนอก โดยตั้งเสาวิทยุกระจายเสียงครั้งแรกในปีค.ศ.1905

การเดินทางก็สามารถขับรถเที่ยวเองได้ง่ายๆ ค่ะ เพราะมีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียว ลักษณะเป็นรูปวงกลม จะไปทางเหนือหรือทางใต้ก่อน ก็มาบรรจบครบรอบได้เหมือนเดิมค่า แต่การเที่ยวในฤดูหนาวอาจจะต้องเจอกับพายุหิมะ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขับรถนะคะทุกท่าน
บ้านน้อยหลังนี้เป็นที่สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์เลยนะคะเนี่ย และยังคงเป็นสถานที่เล็กๆ ที่น่ารัก ที่ทุกคนต้องมาเก็บความประทับใจสักครั้งค่า

ที่มา:https://www.yingpook.com/the-hofdi-house/

เที่ยวเพอร์ลัน Perland

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

เที่ยวเพอร์ลัน PERLAND ไอซ์แลนด์

เที่ยวไอซ์แลนด์ ที่เพอร์ลัน ซึ่งเป็นจุดชมวิวประจำสุดฮิตของReykjavík คงไม่มีคนไอซ์แลนด์คนไหนที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน เพราะเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และสามารถมองเห็นจากระยะไกลได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สร้างในสมัยเดวิด อัดด์สัน (Dav Oddsson) อดีตนายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ อิงกิมูนดูร์ (Ingimundur Sveinsson)

ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง ประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีอาคารขนาดใหญ่ 5 ชั้น ที่ถูกดูแลรักษาเป็นอย่างดี สูง 25.7 เมตร รูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวงค่ะ สามารถชมวิวของเมืองเรกยาวิกที่ยอดเยี่ยมได้อย่างชัดเจน เพราะไม่มีตึกสูงบังสายตา และได้มีการจัดแยกเป็นส่วนต่างๆ ไว้ มีทั้ง ร้านอาหาร ของคาว ของหวาน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง สวนน้ำ และยังมีร้านขายของที่ระลึก ให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินและซื้อของฝากกลับบ้านด้วยนะคะ ฮิฮิ

เพอร์ลัน เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองเรกยาวิกเลยล่ะค่ะ เอาไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาไอซ์แลนด์ต่างไม่พลาดที่นี่กันแน่นอน แม้จะมีเวลาแค่ 2-3 ชั่วโมง ก็จะเป็น 2-3 ชั่วโมงที่วิเศษ แค่ได้เห็นวิวสวยๆ ก็คุ้มแล้วค่าาา

แอ็คท่าเหมือนไหม

ที่มา:https://www.yingpook.com/iceland-perland/

เที่ยวโบสถ์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา HALLGRIMSKIRKJA, REYKJAVIK ไอซ์แลนด์

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

เที่ยวโบสถ์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา Hallgrimskirkja

โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ ที่ทุกคนต่างรู้จักกันอย่างดีเลยล่ะค่ะ เมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์ทั้งทีมีหรือจะไปไม่ถึง อิอิ
เพราะที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ มีความสูงถึง 74.5 เมตร เป็นศาสนสถานที่สำคัญ
และยังเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดอีกจุดหนึ่งด้วยนะคะ เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองเรกยาวิกค่า

ออกแบบโดย นายกุดโยน (Guðjón Samúelsson) เป็นสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ (Impressionist)
รวมระยะเวลาการก่อสร้างถึง 38 ปี ถ้าภาษาไทยต้องบอกว่า โอ้โห นานจัง 555555
แต่อย่างว่า กรุงโรม ก็ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ใช่มั้ยคะ อิอิ

ที่นี่ถูกตั้งชื่อตามพระในศาสนาคริสต์ที่ชื่อฮาลล์กริมูร์ (Hallgr mur Petursson) นักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงในไอซ์แลนด์
โบสถ์จึงมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Hallgr Mskirkja ซึ่งแปลว่า โบสถ์ของฮาลล์กริมูร์ค่ะ
ด้านหน้าของโบสถ์มีอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson) ยืนตระหง่านอยู่
ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของประเทศไอซ์แลนด์บอกไว้ว่า เลฟร์ อีริกสัน เป็นชาวนอสร์แห่งชาติยุโรปที่ไปเหยียบดินแดนอเมริกาตอนเหนือเป็นคนแรกค่ะ ทางสหรัฐอเมริกาจึงได้มอบอนุสาวรีย์นี้ให้แก่ประเทศไอซ์แลนด์เป็นที่ระลึกถึง และเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ดีระหว่างสองประเทศ ครบรอบ 1,000 ปี ไปเมื่อ 1930

ที่นี่เปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น และมีพิธีทางศาสนาวันอาทิตย์และวันสำคัญต่างๆ ค่ะ

ที่มา:https://www.yingpook.com/iceland-hallgrimskirkja-reykjavik/

เที่ยวน้ำพุร้อนกีเซอร์ Geysir หุบเขาฮัวกาดาลู Valley of Haukadalur

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

เที่ยวน้ำพุร้อนกีเซอร์ GEYSIR หุบเขาฮัวกาดาลู VALLEY OF HAUKADALUR ไอซ์แลนด์

เป็นน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ค่ะ
เป็นน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ และมีกำลังแรงมากกก ซึ่งแรงพวยพุ่งของสายน้ำพุร้อนจากใต้ดินขึ้นมาสู่ผิวโลกนั้น จะเกิดขึ้นในทุกๆ 7-10 นาที

ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการที่ใต้ผิวโลกมีโพรงที่กักเก็บน้ำติดต่อกันค่ะ เมื่อน้ำได้รับความร้อนในระดับลึกๆ ถูกสกัดกั้นไม่ให้ถ่ายเทได้ง่าย เพราะรูที่ทำให้น้ำไหลออกมามีขนาดเล็ก ทำให้น้ำที่อยู่ในระดับลึกมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 100 องศาเซลเซียส จึงเปลี่ยนสภาพเป็นไอน้ำดันน้ำที่ขังอยู่ในรูไหลพุ่งขึ้นมา เมื่อไอน้ำได้ถ่ายเทพลังงานความร้อนจนหมดแรงดัน น้ำก็จะหยุดพุ่งจนกว่าจะสะสมความร้อนได้อีกก็จะพุ่งขึ้นมาอีกครั้งค่า จึงส่งผลให้เกิดความงดงามตามธรรมชาติได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เกิดเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ ค่ะ

ทั้งยังรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งและพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่อยู่รายล้อมอีกด้วย ทั้งสวยและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน การเดินเข้าไปยังกีเซอร์นั้นจะสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ และตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนที่มาเยือน โดยจะลุ้นระทึกว่าน้ำจะพุ่งขึ้นมาตอนไหน 555555 นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาสัมผัส ห้ามพลาดเลยนะค้าทุกท่านนนน

ปล. ห้ามโดนน้ำเด็ดขาดนะคะ ไข่สุก และโรงพยาบาลอยู่ไกลมากกกก หลายร้อยกิโล

ที่มา: https://www.yingpook.com/geysir/

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

เที่ยวชมธารน้ำแข็งที่อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล VATNAJÖKULL NATIONAL PARK ไอซ์แลนด์

เที่ยวธารน้ำแข็ง Vatnajokull National Park ไอซ์แลนด์

อีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติที่น่าสนใจและโด่งดังมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่ล้อมเอาธารน้ำแข็งทั้งหมดในทุ่งหิมะ Vatnajokull ทุ่งหิมะที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์เอาไว้ พร้อมทั้งมียอดเขา Hvannadalshnukur ที่สูงที่สุดในประเทศด้วย โดยความสูงอยู่ที่ราวๆ 2,110 เมตร อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งนี้จัดเป็นพื้นที่เขตสงวน เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้ ทั้งธารน้ำแข็ง แม่น้ำ ฯลฯ

สำหรับใครที่มาเที่ยว จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานคอยดูแล คอยลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัย ให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ไปจนถึงเป็นไกด์พาเดินเที่ยวชมอุทยานอีกต่างหาก

เวลาจะไปเดินบนธารน้ำแข็ง จำเป็นจะต้องเตรียมอุปกรณ์เฉพาะนะคะ ไม่สามารถเดินด้วยรองเท้าธรรมดาได้ เพราะมันลื่น และอันตรายมากๆ เลยค่ะ แถมไม่มีคนช่วยนะ ต้องไปช่วยกันเป็นทีม ต้องระวังหินตกใส่ ระวังตกบ่อน้ำ และพลัดตกเขาด้วยค่ะ แนะนำว่าควรไปกับทัวร์ หามืออาชีพไปนำทางดีกว่า เปรี้ยวเองเดี๋ยวจะไม่รอดกลับมาค่า

สวีทกลางขุนเขา หนาวกายแต่อุ่นใจ

จริงๆ เราเดินไกลมากเลยนะคะกว่าจะถึง น่าจะหลายๆ กิโลเลยแหละ เดินไม่หยุดสักครึ่งชั่วโมงได้กว่าจะถึง ทางค่อนข้างลื่น เดินต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ

อยู่ๆ พายุมาจ้าาาาา ขาววววมาเลยยยยย ได้เวลาเผ่นแน่บเลยค่า

มาอย่างไว น่ากลัวจริงๆ ที่ไอซ์แลนด์เค้าว่าไว้ว่า เป็นเมืองที่ปลอดภัยสูง ยกเว้นธรรมชาติค่ะ ธรรมชาติไม่สามารถคาดการณ์ได้ ฉะนั้นต้องระวังมากที่สุด ช่วงนี้ลุ้นระทึกมากค่ะ เพราะว่าพื้นมันลื่นเดินเร็วไม่ได้ แต่ลมพายุมันมาไวมาก ลมแรงด้วย นึกถึงขบวนเพนกวิน รีบเดินๆๆๆ กันนะคะ หนีพายุ แว๊กกกกกก

เดินเป็นกิโลๆ พอเดินหนีพ้นเท่านั้นแหละ โล่งอกมากเลยค่า

เมื่อยขาไปโม้ดดดด จ้ำๆๆๆ เห็นแสงแดดก็ดีใจ รอดแล้วเรา..

พอเดินถึงรถ ก็ขับรถออกไปบนถนน หันไปดูด้านหลัง พายุปกคลุมทางที่เราเพิ่งเดินออกมาเรียบร้อย น่ากลัวจริง ส่วนบนถนนก็น่ากลัวมากเช่นกัน ลมพัดแรงมาก จนรู้สึกเหมือนว่า มันสามารถพัดรถเราให้ตกถนนได้เลยแหละ ลมมาแนวย้อนอี๊กกกกก เสียวและลุ้นมากกกกก นอนบนรถไม่หลับเลย ยาวนาน นานจนเหงื่อแตกไปหมด 555 เอาเป็นว่าใครจะมาขับรถที่ไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาว ก็ระวังกันมากๆๆ ด้วยนะค้าา

พอถนนโล่งงี้ ถอนหายใจเฮือกเลย โล่งอกค่าาาา

ที่มา:https://www.yingpook.com/iceland-vatnajokull-national-park/

ขี่สโนว์โมบิล บนทุ่งน้ำแข็งเมียร์ดาล Myrdalsj kull Glacier

วันนี้เราจะพาทุกคนไปท่องเที่ยวชมความสวยงามในสถานที่ต่างๆในประเทศไอซ์แลนด์

ขี่สโนว์โมบิล บนทุ่งน้ำแข็งเมียร์ดาล MYRDALSJ KULL GLACIER ไอซ์แลนด์

เที่ยวไอซ์แลนด์แล้ว ก็มาเปิดประสบการณ์ที่ธารน้ำแข็ง Myrdalsj kull Glacier กันค่าาา เป็นดินแดนที่อยู่จุดสูงสุดของโลก มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ที่มีพื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตรค่ะ Myrdalsj kull แปลว่าธารน้ำแข็งแห่งหุบเขาไมร์ มีถ้ำน้ำแข็งอยู่มากมาย แต่ละถ้ำจะมีน้ำแข็งไหลย้อยลงมา เมื่อโดนแสงกระทบจะเกิดเป็นสีฟ้าอมเขียวใสสวยงามอย่างกับมรกตแน่ะ แถมได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในขั้วโลกเลยล่ะค่า ฮี่ฮี่ พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวและความประทับใจบนภูเขาหิมะ ด้วยการขับสโนว์โมบิลตะลุยความหนาวไปในทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่แบบเจาะลึก เจ้าตัวสโนว์โมบิลนี้ มีความเร็วไม่ได้มากอะไรค่ะ สาวๆ ขี่กันได้สบายยย พร้อมชมความสวยงามกันได้อย่างเต็มที่ ยิ่งขึ้นขับไปทางด้านบน วิวก็ยิ่งสวยและแปลกตามากๆ ค่ะ ขาวโพนไปด้วยหิมะ มองไปทางไหนมีแค่สีฟ้ากับสีขาว ท้องฟ้ากับหิมะ เท่านั้นนนน

ลงไปนอนเกลือกกลิ้งบนปุยหิมะนุ่มๆ

เมื่อเรามาถึงสถานที่ขี่สโนว์โมบิล Arcanum Glacier Tours เราก็จัดแจงแอคท่า และเข้าไปเปลี่ยนชุดให้พร้อมลุย เท่ห์มว๊ากกก

ใส่ชุดหมี รูดซิปจากข้างล่าง เพื่อป้องกันความหนาว และลมปะทะ

แล้วก็รองเท้าหิมะ หมวก ถุงมือ เมื่อใส่ชุดทุกอย่างแล้ว อยู่ในอาคาร ร้อนมากๆๆ ต้องรีบออกไปหาอากาศเย็นๆ ออกไปหาหิมะอย่างด่วน

เมื่ออุปกรณ์พร้อมลุยแล้ว ก็มาฟังคำบรรยายจากผู้ฝึกสอน ขับง่ายๆ ด้วยการกดสตาร์ท แล้วก็บีบคันเร่ง ปล่อยคันเร่งคือหยุด แล้วก็เวลาเข้าทางโค้ง ให้ถ่ายน้ำหนักตามด้วย อย่าฝืนเครื่อง เพราะจะล้มได้

พร้อมแล้วววว ลุยยยย

เท่ห์ยังกับ อะมาเกทด้อน

I believe I can fly…

ความรู้สึก เมื่อได้ขี่ Snowmobile บนยอดเขาหิมะ และเจอไกด์หนุ่มสุดหล่อเซอร์ไพรส์

บิน.. ล่องลอย.. ฟิน..

อยู่ไอซ์แลนด์ต่อเลยได้มั้ย.. อยากจะอยู่ซ้อนท้าย และซิ่งเฟี้ยวฟ้าวไปด้วยกัน 555

ที่มา:https://www.yingpook.com/iceland-myrdalsj-kull-glacier/